วัดธรรมยานจี (Dhamayangyi Temple) วิหารแห่งการไถ่ถอนบาป


💖WELCOME TO OUR PLACE💖

ก่อนที่เราจะพาไปชมความงามที่น่าอัศจรรย์ของวัด ขอกล่าวถึงประเทศพม่ากันสักหน่อย เนื่องจากเป็นอีกประเทศที่เป็นน้องใหม่แห่งการท่องเที่ยวของภูมิภาคไม่แพ้ประเทศไทยบ้านเราเลย ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ทำให้ท่องเที่ยวหันมาสนใจที่จะเดินทางมาเยือนดินแดนอันงดงามที่มีผู้คนอัธยาศัยดีแห่งนี้มากขึ้น พม่าได้รับเสียงตอบรับจากสื่อตะวันตกให้เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าไปเยือน นี่เป็นอีกหนึ่งประเทศสุดยอดจุดหมายปลายทาง น้องใหม่ในเอเชียที่เพื่อนๆนักเที่ยวไม่ควรพลาด เดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของประเทศเพื่อนบ้านไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

💗💗💗💗

แน่นอนว่าถ้านึกถึงพม่า ใครหลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงบอลลูนที่เมืองพุกามอย่างแน่นอน เพราะว่ามันสวยตราตรึงใจ ดั่งเทพนิยาย  เราจะสามารถเที่ยวชมทะเลเจดีย์ และวิวของ Balloon ที่ลอยเป็น Background ในยามเช้า มันคือการเยี่ยวยาทุกสิ่งจริง ๆ



อ้างอิงจาก:https://i.pinimg.com/564x/a3/0b/9a/a30b9a8b6d783fdea59bae129b6fd2e5.jpg


วิวบอลลูนเคล้าคลอทะเลเจดีย์ ที่สวยระดับ “UNESCO World Heritage 2019เวียนกลับมาอีกครั้ง ในดินแดนอารยธรรมโบราณ ที่สักครั้งในชีวิตต้องได้มาเยือน “มัณฑะเลย์ - พุกาม” แห่งประเทศพม่า เยี่ยมชมเมืองมรดกโลกแบบเดินทางใกล้ๆ เที่ยวง่ายๆ งบเบาๆ แต่วิวสวยสะกดราวกับต้องมนต์ ~

แล้วเราจะช้าทำไม ไปพบกับ  วัดธรรมยางจี (Dhamayangyi Temple) วิหารแห่งการไถ่ถอนบาป ทำไมถึงต้องไถ่บาปล่ะ เรื่องราวเป็นยังไง ?? เราไปหาคำตอบกัน👇👇



อ้างอิงจาก:  https://i.pinimg.com/564x/20/74/9e/20749e72ac00dd3c48ec42decb3dd7b6.jpg


  • สถานที่ตั้ง: Dhamma Yan Gyi, Nyaung-U, Mandalay Region
  • เหตุผลที่แนะนำ:เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพุกามและติด 1 ใน 4 ของวัดสำคัญในเมืองพุกาม
  • เวลาเปิดทำการ: เวลา 8:00-18: 00 น.
  • ค่าธรรมเนียมแรกเข้า:รวมอยู่ในตั๋วสำหรับเมืองพุกาม



อ้างอิงจาก: https://lh3.googleusercontent.com


หลักการก่อสร้างของวัดธรรมยางจีคือเลียนแบบวัดอนันดา 

จากการก่อสร้างด้วยอิฐแดงเป็นล้าน ๆ ก้อน  ตั้งตระหง่านและดูยิ่งใหญ่กว่าสิ่งก่อสร้างที่รายล้อมอยู่ด้านข้าง  ท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องกระทบก้อนอิฐ ส่องแสงเปล่งประกายสีส้มแดง ทำให้วิหารแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือ  เพราะสร้างขึ้นด้วยอิฐสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น  มีลักษณะอาคารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่มีความสวยงามและได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุดในพุกาม ที่คล้ายกับวัดอนันดา  มีมุขยื่นออกมาสี่ด้าน 

สถานที่สวยงามแห่งนี้ สร้างขึ้นสมัยของ พระเจ้านราธู ในปี ..1655 - 1710  วิหารนี้มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า กาลักยามิน (Kalagya Min) อันหมายถึง วิหารของกษัตริย์ที่ถูกฆ่าโดยพวกกาลา  

อยากจะฟังเรื่องราวกันแล้วใช่ไหมค่ะ ว่ามันเป็นอย่างไร เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

"เรื่องราวเริ่มมาตั้งแต่สมัยนานมาแล้ว โหรของพุกามเคยทำนายไว้ว่า “ ถ้าใครสร้างเจดีย์องค์ใหญ่เกินไป กษัตริย์แห่งพุกามองค์นั้นก็จะพบกับหายนะยาวนานจนกระทั่งมาถึงยุคสมัยของกษัตริย์นราธูกษัตริย์องค์นี้โหดมาก เพราะพระองค์ได้สังหารบิดาและพี่ชายของตนเอง และผลักดันตัวเองจนได้เป็นกษัตริย์แทน ทีนี้พระองค์เลยต้องการทำบุญล้างบาปมหาศาลที่ได้ก่อเอาไว้ ด้วยการสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่ ซึ่งเจดีย์นี้นอกจากความใหญ่โตแล้วยังเนี๊ยบอีกด้วย อิฐกว่าล้านก้อนที่เอามาเรียงต่อกันต้องแนบกันสนิทชิดกันแบบมากๆ ในระดับที่ ถ้าพระเจ้านราธูสามารถเอาเข็มมาจิ้มลอดระหว่างรูอิฐสองก้อนได้ นายช่างผู้นั้นก็จะถูกตัดมือและประหารชีวิตในที่สุด

ระหว่างเจดีย์นี้กำลังสร้างในปีที่สาม นอกจากฆ่าช่างฝีมือแล้ว พักหลัง ๆ พระเจ้านราธูยังฆ่าผู้คนไม่เลือกหน้า เรียกว่าไม่ชอบหน้าใครก็ฆ่าหมด แต่เคราะห์กรรมของพระองค์ที่ดันไปสั่งประหารชีวิตพระมเหสีองค์หนึ่งที่เป็นธิดาของกษัตริย์อินเดีย ทีนี้พอรู้ถึงหูพ่อของพระมเหสีอินเดียก็เลยโกรธแค้น ว่าจ้างกองทัพอินเดียและนักลอบสังหารมาสังหารพระเจ้านราธู และเจดีย์แห่งนี้เลยสร้างไม่เสร็จซักที มีแค่อิฐเปลือยๆ ไม่มีปูนฉาบ ไม่มีจิตรกรรมฝาผนังอย่างที่อื่น ๆ นั่นเอง"

ขอบคุณตำนานเรื่องเล่า จาก tongkatsu.com


วิหารแห่งนี้สร้างไม่สำเร็จบริบูรณ์ บางครั้งเรียกว่า วิหารที่สร้างไม่เสร็จ” ( Temple Never Completed) แต่ต่อมาหลังจากที่พระองค์นราธูเสียชีวิตลง จากการถูกฆาตรกรรม วิหารแห่งก็ไม่ตายไปกับพระองค์ด้วย ยังคงเป็นตัวแทนที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ทั้งตัวสถานที่และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แห่งเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน



อ้างอิงจาก:https://f.ptcdn.info/982/027/000/1422692708-Dhammayang-o.jpg

แม้ว่าจะสร้างไม่เสร็จ แต่วัดแห่งนี้มีอิฐประมาณ 6 ล้านก้อน มีความกว้าง 78 เมตรส่วนพื้นที่ตรงกลางกว้าง 25 เมตร มีทางเข้าสี่ทาง เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินที่มีกว้างและมีประตูหลอก หลังคาของวิหารสร้างโดยการก่ออิฐขึ้น แสดงให้เห็นว่าคนสมัยก่อนมีความสามารถในการออกแบบและก่อสร้างวิหารได้ดีมาก 



อ้าอิงจาก:http://4.bp.blogspot.com

วิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่นี้เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมีมุขยื่นออกทั้งสี่ด้าน แบบที่เรียกว่า อาคารรูปกางเขนของกรีก ( Greek Cross ) แต่สิ่งที่แปลกและยังเป็นปริศนาอยู่จนมาถึงทุกวันนี้คือ มีกำแพงอิฐก่อกั้นทางเดินไว้ระหว่างระเบียงด้านนอกสู่ระเบียงด้านใน ไม่สามารถเดินผ่านได้ สามารถเยี่ยมชมได้เฉพาะทางเดินส่วนโค้งของพื้นที่รอบนอก โดยไม่มีผู้ใดรู้ถึงเหตุผลของการกระทำการก่อสร้างดังกล่าว และบบจำลองพีระมิดนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโครงสร้างของวัดแบบดั้งเดิมและวัดพุทธของพม่า


อ้างอิงจาก:https://i.pinimg.com/236x/55/2e/15/552e153fb15de0ea9333970cf15a97f7.jpg

ที่ด้านในของประตูด้านทิศตะวันตกของพระวิหารมีพระพุทธรูป 2 องค์ซึ่งเป็นพระโคตมพุทธเจ้าและพระศรีอริยเมตไตร ในอนาคตอยู่เคียงข้างกัน (เป็นสถานที่เดียวในพุกามที่มีพระพุทธรูปสององค์อยู่เคียงข้างกัน)  และในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวในปี พ.ศ. 2518 เจดีย์อื่น ๆ ได้รับความเสียหายหลายระดับในขณะที่วัดธรรมยางจีไม่ได้รับอันตราย

อ้างอิงจาก:https://i.pinimg.com/236x/9f/c6/60/9fc6605ad7aa0f16f663ee6b748771e0.jpg

วิหารที่แข็งแรงและยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยด้วยความสวยงามและน่าอัศจรรย์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชม วิหารธรรมยางจีเป็นจำนวนมาก  เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งในเมืองพุกามที่ห้ามพลาด นอกจากตัววิหารที่สุดยอดแล้ว ตำนานและเรื่องราวก็สำคัญไม่แพ้กันเลย ถ้าเรารู้ไว้ก็ยิ่งดี จะได้รู้ถึงเหตุผลหรือความต้องการของผู้สร้างว่าสร้างขึ้นมาเพราะอะไรกันนะ
อย่างเช่น วัดธรรมยางจีแห่งนี้สร้างจากความรู้สึกบาปและต้องการที่จะไถ่ถอนบาปที่สร้างขึ้นมา แต่พระองค์ก็ยังไม่เข็ดหรือรู้สึกสำนึกผิด ยังฆ่าผู้คนที่อ่อนแอมาโดยตลอด จนกระทั่งเสียชีวิตลง วิหารก็ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เชื่อไหมว่ายังไงสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ก็เป็นตัวแทนที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของพุกามได้เป็นอย่างดี

การเดินทาง

วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพุกาม หากต้องการเดินทางไปพุกามและเยี่ยมชมวัดธรรมยางจี สามารถบินโดยเครื่องบินจากย่างกุ้ง รวมทั้งขึ้นรถไฟจากย่างกุ้งหรือมัณฑะเลย์ไปยังพุกามหรือนั่งเรือในแม่น้ำอิระวดี สภาพ
อากาศในพุกามมักจะแห้งตลอดทั้งปีและไม่มีฤดูฝน จะสามารถเยี่ยมชมวัดธรรมยางจีได้ตลอดเวลาอย่างไรก็ตามเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า ควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงถึงครึ่งวันเพื่อเยี่ยมชมวัดแห่งนี้และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงในพื้นที่พุกาม

การเดินทางไปวัดธรรมยางจีมี 3 วิธี

ก. คุณสามารถโดยสารรถท้องถิ่นซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 จ๊าตต่อวันไปยังวัดธรรมยางจี

ข. คุณยังสามารถเช่าจักรยานซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 จ๊าตต่อวันเพื่อปั่นเที่ยวชมวัดธรรมยางจี

ค. คุณสามารถเช่ารถ 8 ที่นั่งซึ่งมีราคาประมาณ 50,000 จ๊าตต่อวัน





ขอบคุณข้อมูลจาก:
-ข้อมูลท่องเที่ยวพม่า.(2561).วิหารธรรมยางจี วิหารอันยิ่งใหญ่ที่สุดในพุกาม.สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563.จาก http://burma-travel.blogspot.com/2014/01/DhamayangyiThample.html
-เมืองน่าเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวในอาเซียน.(2562).พาชม "เจดีย์วิหารธรรมยางจี" (Dhammayangi Pagoda) พุกาม พม่า.สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563, จาก  http://tourasiaasean.blogspot.com/2019/03/dhammayangi-pagoda.html
-ASIA OPEN TPURS.(2017).Dhammayangyi Temple, The Preserved Ruins in Bagan.สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563.จาก https://asiaopentours.net/dhammayangyi-temple/
-TAT.(2016).Dhammayangyi Temple.สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563.จาก https://www.topasiatour.com/attraction/dhammayangyi-temple.html


Comments